

ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 10 วัน 7 คืน เหนือจรดใต้
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
|
แกรนด์อิหร่าน 10 วัน 7 คืน เหนือ – ใต้ ทาบริซ กันโดวาน เตหะราน ชีราช อิสฟาฮาน อับบียาเนย์
มาซูเล่ย์ เตหะราน ชีราช อิสฟาฮาน อับบียาเนย์ คาชาน
สายการบิน มาฮานแอร์
โปรแกรม ไม่นั่งรถนาน บินภายใน 3 ชม.โรงแรม มาตรฐาน 4 *
อาหาร ไก่ ปลา เนื้อ แกะ ปิ้ง ย่าง ทอด ผลไม้ตามฤดูกาล
อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 06/06/23 12:43 pm เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
โปรแกรมการเดินทาง ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 10 วัน 7 คืน เหนือจรดใต้
19.35คณะเดินทางพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถว S เคาน์เตอร์มาฮานแอร์ 22.35ออกเดินทางสู่กรุงเตหะราน โดยมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5050
03.30ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิหม่ามโคมัยนี ซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของกรุงเตหะรานประมาณ 60 กิโลเมตร หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางต่อสู่สนามบินเมห์ราบัต Mehrabad Airport
08.20บินสู่เมืองทาบริซ โดยสายการบิน Ata Airline Flight I35608 ทาบริซ เป็นเมืองหลวงเก่าที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขต East Azerbaijan ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน บนทำเลทองที่เส้นทางการค้าจากเขตเทือกเขาซากรอสและคอเคซัสตัดบรรจบกัน มีประวัติศาสตร์กว่า 3,500 ปี เป็นศูนย์กลางการค้าที่โดดเด่นบนเส้นทางสายไหม เชื่อมโยงการค้าทางไกลจากยุโรป ผ่านเปอร์เซียไปถึงอินเดียและจีน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้ามาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันเมืองทาบริซ ยังคงความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจเนื่องจากภูมิศาสตร์ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
09.20 ถึงสนามบินทาบริซ จากนั่น นำท่านเดินทางเข้าสู่ หมู่บ้านกันโดวาน ( KANDOVAN VILLAGE ) หรือ คัปปาโดเกียแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองทาบริซประมาณ 56 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 นาที เยี่ยมชม หมู่บ้านกันโดวาน หมู่บ้านแห่งนี้มีเอกลักษณ์อันน่าทึ่งและไม่มีที่ไหนเหมือนเนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่เกิดจากเถ้าถ่านที่ทะลักไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ Sahand Mountain เมื่อหลายพันปีก่อน ผสมรวมกับทรายและดินโคลนที่น้ำฝนซะล้างมา จึงเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ หน้าตาแปลกประหลาดคล้ายรวงผึ้งหลายรวงอยู่ร่วมกัน จึงได้ชื่อว่า Kandovan ซึ่งหมายถึง รวงผึ้ง เมื่อราว 800 ปีก่อนพวกพ่อค้าเดินทางมาค้าขายเห็นถ้ำหินภูเขาไฟนี้กันแดดกันลมได้ดี จึงขุดเจาะตามโพรงกรวยหินเข้าไป เพื่อทำเป็นที่พักพิงก่อนจะปักหลักเป็นหมู่บ้านถาวรและเป็นที่พักอาศัย มาจนถึงปัจจุบันมีการเจาะแกะสลักหินขนาดใหญ่เพื่อทำเป็นห้องครัว ห้องโถง บันใด เป็นต้น
บ่ายรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น อิสระช้อปปิ้ง สินค้าพื้นเมือง ตามอัธยาศัย
เดินทางกลับสู่เมืองทาบริซ เข้าที่พักโรงแรม Pars Hotel , Tabriz หรือเทียบเท่า
19.00 รับประทานอาหารค่ำ ภายในโรงแรม
07.00บริการปลุกทางโทรศัพท์โดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
08.00 รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
09.00 หลังจากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่เมืองทาบริซ เข้าชม มัสยิดสีน้ำเงิน เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงใยนเมืองทาบริซสร้างในปี ค.ศ. 1465 ตามคำสั่งของ SHAH JAHAN เป็นมัสยิดแห่งแรกที่ใช้สีฟ้าน้ำเงินอันเป็นที่มาของสมญาว่า ‘’สีเทอร์ควอยซ์อิสลาม’’มัศยิดแห่งนี้ได้ถูกทำลายลงด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในปี ค.ศ. 1779 และได้รับการบูรณะ 40 ปีให้หลัง โดยรักษารูปแบบและขนาดเท่าเดิมบนพื้นที่เดิม โดยการใช้กระเบื้องเท่าที่หลงเหลืออยู่มาประกอบกันใหม่ จึงเป็นเสน่ห์ของมัสยิดแห่งนี้ที่ชวนให้คนรุ่นหลังได้เข้าไปเยี่ยมชม
12.30 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม EI Goli Park และพระราชวังในช่วงราชวงศ์ Qajar (เมื่อ Tabriz เป็นที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการของเจ้าชายแห่งอิหร่าน) ในช่วงที่ 2 ของปาห์ลาวี ปัจจุบันเป็น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใน Tabriz อิหร่าน แต่ก็มีทะเลสาบเทียมล้อมรอบด้วยการเดินเท้าทั้งสี่ด้าน นอกจากนั้นยังมีอาคารที่อยู่ตรงกลางของทะเลสาบที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของอิหร่านอาเซอร์ไบจาน ในภาคใต้ของทะเลสาบที่มี่มีเนินเขาปกคลุมไปด้วยต้นไม้ สองบันไดสวยงามเชื่อมต่อด้านข้างเดินไปที่ด้านบนของเนินเขา ที่ด้านบนของเนินเขาที่มีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย จากนั้นเข้าชม TABRIZ BAZAAR ซึ่งเป็นหนึ่งในบาร์ซ่าที่เก่าแก่ ที่สุดของตะวันออกกลางและใหญ่ที่สุดในโลกถูกบันทึกเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในเดือนกรกฎา 2010 โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี บาร์ซ่าแห่งนี้เป็นกรณีศึกษาสำหรับการออกแบบที่ให้ความสำคัญในการจัดการพื้นที่กับการเชื่อมโยงของอาคารต่างๆ กับวิถีชีวิตผู้คนบนพื้นที่กว่า 7 ตรารางกิโลเมตร
18.35 ออกเดินทางสู่เมืองเตหะราน เที่ยวบินที่ I3 5603
19.35 ถึงสนามบินเตหะรานจากนั่น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เข้าพักที่ AZADI HOTEL ระดับ 5 ดาวในเมืองเตหะราน
เช้ารับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์ นำท่านเข้าชมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอิหร่าน มีชิ้นส่วนทั้งเล็กและใหญ่ที่นำมาจากพระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิสอันยิ่งใหญ่จำนวนมาก ไล่ละมาเรื่อยๆ จากเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้วในยุคราชวงศ์อะคาเมนิด ราชวงศ์ปาร์เธียน ซัสซาเนียน ซาฟาวิด และกอญัร ล้วนแต่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่มีความสนใจทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีทั้งสิ้น
12.00 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น นำท่านสู่ใจกลางของกรุงเตหะรานเพื่อเข้าชมกรุอภิมหาสมบัติที่เก็บสะสมไว้ในห้องนิรภัยของธนาคารกลางแห่งอิหร่านหรือที่เรียกกันทั่วไปสำหรับชาวต่างชาติว่า Jewelry Museum ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดชมสำหรับการเยือนอิหร่านเพราะนี่คือกรุสมบัติแห่งชาติอิหร่านที่มีอัญมณีแทบจะทุกชนิด และเชื่อว่ามีจำนวนมากที่สุดในโลกจนไม่สามารถนำมาแจกแจงบนหน้ากระดาษได้ หนึ่งในอัญมณีที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ยลด้วยตาตัวเองก็ คือ เพชรสีชมพูขนาด 182 กะรัตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
15.00จากนั้น นำท่านชม พระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) ซึ่งเคยเป็นพระราชวังหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียตอนปลายเมื่อ 200 ร้อยกว่าปีที่แล้วในสมัยราชวงศ์กอญัร (Qajar Dynasty, 1779-1921) เป็นยุคที่เปอร์เซียมีความรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งทางด้านการค้า การต่างประเทศและศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะกระเบื้องเคลือบและการตกแต่งภายในด้วยกระจกตัดเหลี่ยมคล้ายเพชรถือว่าโดดเด่นมากในยุคนี้ ซึ่งท่านก็จะได้เห็นห้องต่างๆ ในพระราชวังแห่งนี้ประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะทั้งสองแบบ
17.00รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารสนามบิน
18.00จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมห์ราบัด เพื่อที่จะเดินทางต่อโดยเที่ยวบินสู่เมืองชีราซ
19.50ออกเดินทางสู่เมืองชีราซโดยสายการบินอิหร่านแอร์ เที่ยวบิน IR424
21.10เดินทางถึงสนามบินเมืองชีราซ นำท่านเดินทางสู่โรงแรม CHAMRAN SHIRAZ HOTELหรือเทียบเท่า
07.00 บริการปลุกทางโทรศัพท์โดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
08.00 รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
09.00 นำท่านเที่ยวชม มัสยิดสีชมพู ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงามแปลกตามาก เพราะประดับไปด้วยกระเบื้องโทนสีแดง-ชมพู-เหลือง เป็นสีหลัก มีเพียงหนึ่งเดียวในอิหร่านไม่ว่าท่านจะมองมุมไหนของมัสยิดแห่งนี้ก็ดูสวยงาม อ่อนหวาน จากนั้นนำท่านเที่ยวชม คฤหาสน์ โบราณ ซึ่งมีอายุมากกว่า 125 ปี โดยก่อสร้างในสมัยราชวงศ์กอญัร ระหว่างปี 1879-1886 ที่ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมโบราณประจำยุคกอญัรเลยทีเดียว และท่านจะได้ชมรูปแบบของสวนแบบเปอร์เซียอันสวยงามที่และร่มรื่นในเวลาเดียวกันด้วย
12.00 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายเยี่ยมชม และคารวะ อนุสรณ์สถานของ ท่านฮาเฟช นักปรัชญาของเปอร์เซีย เมืองชีราซ ในยุคศตวรรษที่ 12 อนุสรณ์ของท่าน สร้างในปี 1773 โดยท่านการิมข่านแห่งราชวงศ์ชัน ภายในสวนสวยขนาดเล็กแห่งนี้คราดคร่ำไปด้วยชาวอิหร่าน จากต่างเมืองและชาวเมืองชีราซเองล้วนแต่ต้องหาโอกาสมาคาระเสมอจากนั่นชม ตลาดวาคิล บาซาร์ ซึ่งเป็นบาร์ซาร์ ที่ใหญ่ใจกลางเมืองชีราซที่เก่าแก่และสวยงามมากโดยโครงสร้างของอาคารที่ก่อด้วยอิฐแดงแบบเรียงชิ้นเป็นโครงติดต่อกันหลายร้อยเมตร ในบาร์ซาร์แห่งนี้ประกอบไปด้วยสินค้ามากมายให้จับจ่ายใช้สอย ผู้คนคึกคักตลอดทั้งวัน ท่านสามารถหาของฝากจากตลาดแห่งนี้ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ ของกิน มากมาย
19.30 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเดินทางสู่โรงแรม CHAMRAN SHIRAZ HOTELหรือเทียบเท่า
07.00 รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
08.00 ออกเดินทางสู่พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองชีราซขึ้นไปประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งพระราชวังแห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อประมาณ 512 ปีก่อนคริสตกาลโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชแห่งราชวงศ์อะคาเมนิดของเปอร์เซีย และได้รับการปรับเปลี่ยน ต่อเติมในอีกร้อยปี และห้ารัชกาลต่อมาที่ปกครองเปอร์เซียแต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ กระทั่งถูกเผาทำลายโดยกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราชเมื่อปี 330 ก่อนคริสตกาล แต่ความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังแห่งนี้ก็ยังตรึงใจผู้คนทั่วโลก ที่จะต้องหาโอกาสมาเยือนพระราชวังซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งนี้ และเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมในยุคอะคาเมนิดที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวให้ได้แม้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
นำท่านชมสุสาน 4 กษัตริย์หรือ”นัคเชรอสตัม” ซึ่งอยู่ห่างจากเปอร์ซีโปลิสเพียง 5 นาทีโดยทางรถยนต์ ที่นี่ก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตัวพระราชวังเปอร์ซีโปลิส เพราะเป็นการจำลองพระราชวังอีกหนึ่งแห่งสำหรับชีวิตหลังความตายที่พระมหากษัตริย์องค์สำคัญๆ ที่เคยนั่งบัลลังก์แห่งเปอร์ซีโปลิส 4 พระองค์ได้เชิญเสด็จมาประทับที่นี่ไปจนชั่วนิรันดร์ เป็นสุสานที่เจาะเข้าไปในหน้าผาหินซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินถึงประมาณ 30 เมตร เพื่อป้องกันการบุกรุกจากภายนอก สมควรแก่เวลาแล้วนำท่านกลับมายังตัวเมืองชีราซอีกครั้งหนึ่งโดยแวะถ่ายภาพที่ประตูโกหร่านซึ่งเป็นประตูเมืองทางทิศเหนือของชีราซ
13.30รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เดินทางสู่เมือง อิสฟาฮาน เมืองหลวงของจังหวัดอิสฟาฮานและยังเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียรุ่งเรือง ในศตวรรษที่ 16-18 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรเปอร์เซียรุ่งเรื่อง สูงสุดอีกยุคหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้านการค้าขาย และเมืองอิสฟาฮาน เองก็ได้กลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดถึง 500,000 คน อีกทั้งยังได้รับการขนานนามไปทั่วโลกว่า ‘’Esfahan is half the World’’ อีกด้วย
นำท่านสู่ที่พักโรงแรม Parseh Hotel ESFAHAN หรือเทียบเท่า รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
07.00บริการปลุกทางโทรศัพท์โดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
08.00 รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
09.00 นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชจากโรงแรมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอยู่รายรอบจัตุรัสอิหม่าม บริเวณใจกลางเมืองอิศฟาฮานซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นำท่านชม- จัตุรัสอิหม่าม ซึ่งถือเป็นจุดใจกลางของเมืองอิศฟาฮาน ซึ่งกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1(มหาราช) ทรงโปรดให้สถาปนิกประจำรัชกาลออกแบบและก่อสร้างตั้งแต่ปี 1602 พร้อมๆ กับสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่อยู่รายรอบ จัตุรัสอิหม่ามหรือ Naq-e Jahan Square มีความยาวถึง 512 เมตร กว้าง 163 เมตร โดยแรกสร้างนั้นเป็นสนามหญ้าโล่งๆ เพื่อใช้ในการสวนสนามในพิธีการต่างๆ และเป็นสนามแข่งโปโลที่กษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ทรงโปรด แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนโฉมไปมาก มีการจัดแต่งด้วยไม้ประดับ สระน้ำ และน้ำพุตรงกลาง และมีรถม้าสำหรับบริการนักท่องเที่ยวเพื่อนั่งชมรอบๆ จัตุรัสด้วยพระราชวังอะลีคาปู สร้างในยุคเดียวกันกับจัตุรัสอิหม่าม เป็นตึกครึ่งปูนครึ่งไม้สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของจัตุรัส ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในยุคนั้น ที่สำคัญคือเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดของสถาปนิกแห่งยุคซาฟาวิดที่มีเทคนิควิธีในการป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างได้ผล บนชั้น 4 ของพระราชวังเป็นระเบียงสำหรับชมทัศนียภาพของทุกสิ่งทุกอย่างบนจัตุรัสอิหม่าม โดยในสมัยก่อนมีพลับพลาที่ประทับสำหรับพระมหากษัตริย์ทรงทอดพระเนตรการละเล่นต่างๆ ด้วย ที่ชั้นบนสุดมีห้องสำหรับฟังดนตรีมโหรีขับกล่อมซึ่งก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่ประดับไว้ด้วยภูมิปัญญาช่างเปอร์เซียในการออกแบบผนังห้องให้ดูดซับเสียงดนตรีและขจัดเสียงสะท้อนออกไปอย่างได้ผล สุนทรีในดนตรีที่ขับกล่อมจึงเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคนั้น มัสยิดชีคล๊อฟฟุลเลาะห์ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสอิหม่าม ตรงข้ามกับพระราชวังอะลีคาปู สร้างระหว่างปี ค.ศ.1602-1619 โดยพระบัญชาของกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กแต่การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในต้องยกให้ว่าเป็นเลิศ เป็นมัสยิดประจำองค์พระมหากษัตริย์และคนในราชสำนักที่จะมาทำพิธีละหมาดที่นี่ได้
12.30รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านชมมัสยิดอิหม่าม ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงทางด้านสถาปัตยกรรมแห่งยุคซาฟาวิดเลยทีเดียว สร้างโดยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ระหว่างปีค.ศ.1611-1629 นี่เป็นครั้งแรกที่การสร้างโดมประธานของมัสยิดสามารถทำเป็นสองชั้นคร่อมกันอย่างสนิทแนบเนียนและมีระยะห่างระหว่างชั้นทั้งสองของโดมเท่ากันเป็นแนวขนาน และเป็นที่มาของการนำสวดที่สามารถทำให้เสียงกระจายออกไปได้ทุกส่วนทุกพื้นที่ของมัสยิดได้อย่างชัดเจน นอกจากความมหัศจรรย์ทางด้านเสียงแล้ว ตัวมัสยิดเองก็ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในแผ่นดินเปอร์เซีย สมบูรณ์แบบและสวยงามมากในด้านรูปทรงและองค์ประกอบของตัวอาคาร ไม่ควรพลาดในการเข้าชมด้วยประการทั้งปวง
19.30 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ก่อนที่จะกลับสู่โรงแรมที่พัก Parseh Hotel หรือเทียบเท่า
07.00 บริการปลุกทางโทรศัพท์โดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
08.00 รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
09.00 นำท่านชมอิสฟาฮาน (ISFAHAN) เมืองที่มั่งคั่งเป็นศูนย์กลางการค้าขาย หัตถกรรม อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรม และวิทยากร จนถึงขั้นเจริญสูงสุดในเกือบทุกด้านโดยเฉพาะการประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย
ชมความสวยงามของวิหารแว้งค์(VANK CATHEDRAL) ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวคริสต์อาร์เมเนียน (ARMENIAN) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของเปอร์เซีย ภายในตัวโบสถ์มีภาพเขียนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ชมความเก่าแก่ของตำหนักรับรองเชเฮล โซทุน (CHEHEL SOTUN) หรือวัง 40 เสา วังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1657 รอบพระราชวังมีสวนเขียวชอุ่ม ดอกไม้ชูช่อสวยงามในฤดูใบไม้ผลิโดยเฉพาะกุหลาบที่ห้อยเป็นพวงระย้าส่งกลิ่นหอมน่าชื่นใจ วังแห่งนี้สร้างในสมัยชาฮ์ อับบาสที่ 2 แต่ได้มีการออกแบบมาตั้งแต่สมัยชาฮ์อับบาสที่ 1 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และบรรดานางสนม ต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับอาคันตุกะหรือแขกเมือง ในพระราชวังแห่งนี้มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าซึ่งจะสะท้อนเงาของเสาพระราชวังถึง 40 ต้นซึ่งเป็นการเปรียบเปรยความใสของน้ำในสระที่สามารถสะท้อนเงาของเสาพระราชวังมากกว่าที่เห็นในความเป็นจริง ซึ่งเสาพระราชวังทั้งหมด มีเพียง 20 ต้นเท่านั้น ชมการแกะสลักลวดลายประตู หน้าต่าง ภาพฝาผนังปูนปั้น ชมภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ตำหนักเล่าเรื่องราวราชสำนักและประวัติศาสตร์การทำศึกสงคราม
จากนั้นเดินทางสู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสายันเดห์รูดซึ่งไหลจากเทือกเขาซาโกรซแล้วผ่านเข้าสู่ตัวเมืองอิศฟาฮาน ชมสะพานสองแห่งที่สวยงามและมีชื่อเสียงซึ่งทอดข้ามสองฝั่งของแม่น้ำสายนี้ สะพานซิโอเซห์ (Si-o Seh Bridge) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Allahverdi Khan Bridge ตามชื่อสถาปนิกผู้ออกแบบก่อสร้างในสมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ใช้เวลาสร้างระหว่างปี 1599-1602 ราวสะพานทั้งสองข้างสวยงามด้วยฝีมือการก่ออิฐเป็นซุ้มจั่วแหลมเรียงกันถึง 33 ซุ้ม สะพานแห่งที่สองที่ควรค่าแก่การแวะชมคือ สะพานคาจู(Khaju Bridge)ได้รับตำแหน่งสะพานที่สวยงามที่สุดในเมืองอิศฟาฮาน เป็นสะพานที่มีถึงสองระดับ โครงสร้างตอนล่างเป็นหิน ส่วนตอนบนเป็นอิฐ มีพลับพลาที่ประทับสำหรับการเสด็จประทับชั่วคราวของพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่กึ่งกลางบนชั้นที่สอง สร้างเมื่อปีค.ศ.1650 สมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 2 มีความยาวถึง 110 เมตร
19.30 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร กลับสู่โรงแรมที่พัก Parseh Hotel หรือเทียบเท่า
08.00รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านอาบียาเนห์ (ABYANEH VILLAGE) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ใช้อิฐ ดินดิบเป็นวัสดุในการสร้างบ้าน และยังคงสภาพเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 - 18 หมู่บ้านสร้างอยู่บนเนินเขา คาร์คาส (KARKAS) ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,890 เมตร ในอดีตชาวเมืองนับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ (ZOROASTER) หรือลัทธิบูชาไฟซึ่งเป็นศาสนาโบราณของโลก ก่อนที่จะได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามาในภายหลัง
เที่ยงพักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองคาชาน (KASHAN) เมืองซึ่งตั้งอยู่เหนือความสูงของระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 เมตร เป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญของจังหวัดอีสฟาฮาน ในด้านการทอพรม ที่มีชื่อเสียงของชาวเปอร์เซีย มาแต่อดีตกาลมีชื่อเสียงไปทั่วโลกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และยังมีชื่อเสียงในการทอผ้าและทอผ้าไหมอีกด้วย นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองสำคัญในอดีต เนื่องจากเป็นเมืองผ่านเข้าสู่ทะเลทราย จึงเป็นเมืองที่มีบ้านของมหาเศรษฐีแห่งเมืองกลางทะเลทรายในอดีต ซึ่งมีอายุกว่า 170 ปี นำท่านชมบ้านเศรษฐี (HISTORICAL HOUSE) ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแล้ว
หลังจากนั้นออกเดินทางสู่สนามบินกรุงเตหะราน
22.10ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ W5051 ใช้เวลาบินประมาณ6.25 ชั่วโมง
07.25 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ (ชั้น 2 ผู้โดยสารขาเข้า)
**************
หมายเหตุสำคัญ
1. การเดินทางทัวร์ต่างประเทศและในประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติของโรคโควิด-19 เนื่องด้วยมาตรการเกี่ยวกับควบคุมโรคโควิด-19 ของแต่ละประเทศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจส่งผลให้ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิด รถไฟหยุดบริการ เรือสำราญหยุดบริการ หากเกิดกรณีดังกล่าว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ตามความเหมาะสม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
2. กรณีลูกค้าป่วยเป็นโควิค-19 ระหว่างทัวร์ ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาต่าง ๆ รวมทั้งค่าโรงแรมในการกักตัว ด้วยตัวท่านเอง / เนื่องจากทัวร์เป็นลักษณะเหมาบริการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าทัวร์ ทั้งนี้บริษัทฯ จะช่วยประสานงานต่าง ๆให้เรียบร้อย *ประกันการเดินทาง ของบริษัทฯ จัดทำให้ จะเป็นประกันอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น ไม่รวมประกันสุขภาพ และโรคประจำตัว ไม่รวมค่าโรงแรมในการกักตัว Hotel/Home isolation ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตรวจ Fit to Fiy ATK RT-PCR และ PCR
โดยการเบิกประกันอุบัติเหตุจะต้องรักษาโดยโรงพยาบาล คลินิก มีใบเสร็จ และใบรับรองแพทย์ เท่านั้น ทั้งนี้การพิจารณาการเอาประกัน เป็นไปตามกรมธรรม์ บริษัทประกันภัย จะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้น บริษัทฯ ไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้
ลูกค้าได้อ่าน และรับทราบหมายเหตุสำคัญนี้ เพื่อความเข้าใจตรงกัน ก่อนการตัดสินใจซื้อทัวร์จากบริษัทฯ
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 30,000 บาท/ท่านภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
1.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
2.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 50 วัน หักค่ามัดจำ 30,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)(สงกรานต์-ปีใหม่ 50 วัน)
3.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน หักค่ามัดจำ 30,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 45 วัน)
4.ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
1.ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับเป็นหมู่คณะ
2.ค่าโรงแรมที่พักตามรายการ
3.ค่าอาหารตามรายการ
4.ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการ
5.ค่าภาษีสนามบินตามรายการ
6.ค่ารถ-รับส่งและนำเที่ยวตามรายการ
7.ค่าธรรมเนียมวีซ่า
8.ค่าประกันอุบัติเหตุในวงเงินคนละ 1,000,000.-บาท, ค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 500,000.-บาท
1.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าอาหาร, ค่าเครื่องดื่มพิเศษ, ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์,
2.ค่าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน 23 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องบินไม่เกิน 7กิโลกรัม
3.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
4.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ 5 USD ต่อวัน รวม 40 USD ตลอดทริป
5.ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
6.การบริการยกกระเป๋าเป็นการบริการเสริมเพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบกรณีกระเป๋าแตก ขีดข่วน หู้หิ้วหลุด เช่น กรณีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ยกขึ้นสายพานของแอร์ไลน์ หรือกรณีเจ้าหน้าที่โรงแรมยกเข้าออกโรงแรมหรือคนขับรถยกขึ้นรถบัสหรือยกเข้าออกเรือที่พักบนเรือ และทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใดๆให้ท่านได้ เพื่อความสบายใจกรณีลูกค้ากังวลเรื่องกระเป๋ากรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆเพื่อลูกค้าจะได้ยกกระเป๋าท่านเอง
7.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
8.กรณีลูกค้าจะต้องทานซีฟู้ดทุกๆมื้อ.ลูกค้าสามารถสั่งเพิ่มและชำระเงินที่ร้านอาหารได้โดยตรง
9.กรณีแอร์ไลน์เปลี่ยนแปลงแจ้งเวลาบินกระทันหัน หรือ เที่ยวบินดีเลย์ บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบตั๋วเครื่องบินๆภายในประเทศให้ท่านได้
10.กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัทฯ จะทำการรีเควสร้องขอแอร์ไลน์ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่ยืนยันจะได้ตามที่ขอหรือไม่ขึ้นอยู่กับแอร์ไลน์ดำเนินการ
11.ค่าเข้าห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำเอกชนกรณีบางสถานที่เรียกเก็บ รบกวนชำระตรงผู้ให้บริการ
1.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและโปรแกรมทัวร์ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบจากเหตุอันเนื่องมาจากภัยจลาจล ประท้วง ความไม่สงบทางการเมือง อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ปัญหาการจราจร การล่าช้า หรือยกเลิกเที่ยวบิน แต่เราจะแก้ไขให้ดีที่สุด
3.สถานฑูตเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า 1,750 บาท โดยปริยาย (ไม่คืนทุกกรณี)
4.สงวนสิทธิ์ไม่ขายแก่บุคคลที่สงสัยว่าจะลักลอบไปทำงานในต่างประเทศ
5.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
6.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
7.เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
8.บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
9.ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
ตั๋วเครื่องบิน
1.ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอRefundตามระบบของสายการบินเท่านั้น(ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
2.ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตหาดใหญ่ฯลฯโปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆยืนยันการเดินทางแน่นอนหากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
3.เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้อง
1.ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
2.โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
3.ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
1.กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้นกรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
2.วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟันเจลสเปรย์และเหล้าเป็นต้นจะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
3.หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
1.สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบินคือ 20-30กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
2.สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีความกว้าง
( 9.75นิ้ว ) + ยาว( 21.5นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )
3.ในบางรายการทัวร์ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศน้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบินบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
4.กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไปไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
1.ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
2.ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
3.กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
*การขอที่นั่งพิเศษ เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง เป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้
กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน
หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่ซื้อที่นั่งขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
*กรณีลูกค้าซื้อตั๋วเอง และออกตั๋วบินภายในประเทศ ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯว่าสามารถออกตั๋วได้เท่านั้น กรณีลูกค้าออกตั๋วเองโดยไม่ได้รับการยืนยัน รวมทั้งการเปลี่ยนเวลาบิน ยกเลิกเที่ยวบินเกิดจากสายการบิน บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ *การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้ *กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัวไม่ได้ หรือทานเนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ หรือมื้อไหนบริษัทฯไม่สามารถจัดหาให้ได้บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน เอกสารสำหรับยื่นวีซ่าประเทศอิหร่าน *************
ทัวร์แนะนำ :
ทัวร์อิหร่าน
ท่องเที่ยวอิหร่าน
เที่ยวอิหร่าน
ทัวร์ตะวันออกกลาง
1.หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน (เล่มจริง) มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน นับจากวัน เดินทาง
2.รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว 2 ใบ
3.สำเนาบัตรประชาชน
4.สำเนาทะเบียนบ้าน
5.ระบุอาชีพ ตำแหน่งงาน
ทัวร์แนะนำ