

ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ ตอนใต้ ลาฮอร์ แกรนด์ทัวร์ 13วัน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
|
ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ-ใต้ แกรนด์ทัวร์ 13วัน
บริษัทฯ ขอนำท่านเดินทางสู่ประเทศปากีสถาน นำท่านเที่ยวปากีสถาน ค้นหาเสน่ห์แห่งหุบเขาและธรรมชาติเทือกเขาที่รายล้อมและยิ่งใหญ่บนเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ สูงสลับเป็นยอดเด่นสง่ากับทะเลสาบที่เขียวดังมรกตและแม่น้ำสินธุที่มีความสำคัญ บนเส้นทางหลวงรถยนต์ที่สูงที่สุดในโลกบนถนนคาราโคลัมไฮเวย์ที่ถูกกล่าวว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันดับ8 ชมมรดกโลกด้านพระพุทธศาสนา
วันเดินทาง | ผู้ใหญ่ 2ท่าน/ห้อง | เด็กไม่เสริมเตียง | เด็กเสริมเตียง | พักเดี่ยว +เพิ่ม | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 06/06/23 2:19 pm เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า |
โปรแกรมการเดินทาง ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ ตอนใต้ ลาฮอร์ แกรนด์ทัวร์ 13วัน
วันแรก กรุงเทพ – อิสลามาบัด
19.00 ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG349 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก.............หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
วันที่สอง อิสลามาบัด – เปชวาร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปชาวาร์ เมืองนี้ชื่อเดิมในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาคือเมืองปุรุษปุระตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศปากีสถานเป็นเมืองสำคัญมากอีกเมืองบหนึ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาประมาณ ๖๐๐ ปี หลังพุทธปรินิพพาน เนื่องจากเป็นสถานที่จัดทำสังคายนาครั้งที่ ๔ ตามบันทึกของฝ่ายมหายาน ซึ่งตอนนั้นปกครองโดยพระเจ้ากนิษกะมหาราช แห่งราชวงศ์กุษาณะ ตามประวัติศาสตร์หลังจากที่พระเจ้ากนิษกะได้แผ่อำนาจทางบ้านเมืองไปทั่วบริเวณแถบนี้แล้ว ก็ได้หันมาสนใจเรื่องศาสนาโดยเฉพาะพระพุทธศาสนา จนกระทั่งเป็นประธานอุปถัมภ์การทำสังคายนาและมีท่านพระปารศวะเถระเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลังจากเสร็จการทำสังคายนาก็ได้สร้างมหาเจดีย์ใหญ่สูง ๕๕๐ ฟุต ไว้เพื่อบรรจุพระไตรปิฎกที่จดจารึกด้วยภาษาสันสกฤต จำนวน ๓ แสนโศลก เมื่อครั้งที่พระถังซำจังเดินทางมาที่สู่ประเทศอินเดียเมื่อประมาณ พ.ศ..ศ ๑๑๙๙ โดยใช้เส้นทางนี้และก็ได้กราบนมัสการมหาเจดีย์ใหญ่นี้ด้วย นอกจากนั่นยังมีนักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาที่เกิด ณ เมืองนี้หลายท่าน เช่นท่านพระอสังคะ ท่านพระวสุพันธุ ท่านพระอารยเทพ เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เปชาวร์ ด้านในมีทั้งหมด 2ชั้น ประกอบด้วยพระพุทธรูปแกะสลักหิน ยุคคันธาระจำนวนมากและหลักฐานชิ้นส่วนอื่นๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและเกี่ยวกับพระเจ้ากนิษกะได้เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่เมืองเปชวาร์แห่งนี้ พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยางานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เปชาวาร์
เย็น รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
ค่ำ เข้าสู่ที่พักโรงแรม................ ดีที่สุด
วันที่สาม เปชวาร์ - ตักตาขท์ อี ไภ - สวัต
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เพื่อเที่ยวชม มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาที่ ตาขท์ อี ไภ สถานที่แห่งนี้ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนายังไม่ทราบว่าเรียกชื่ออะไร ไม่ปรากฏในบันทึกของพระถังซำจั๋ง แต่เรียกกันในปัจจุบันนี้ว่า ตาขท์ อี ไภ ซึ่งอยู่ที่เมืองมาร์ดาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน เป็นซากพุทธสถานของวัดในพระพุทธศาสนาที่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ ๕๐๐ ฟุต จากพื้นราบ เป็นวัดที่อยู่ด้านนอกของเทือกเขาฮินดูกูฏ วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาศิลปะวิทยาต่างๆ มหาวิทยาลัยที่มีบริเวณกว้างใหญ่ มีลักษณะการสร้างเหมือนวัดต่างๆ ในยุคสมัยนั้น คือ มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง รอบๆ เป็นห้องสวดมนต์และเป็นห้องประชุมสังฆกรรม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านสู่ เมืองหุบเขาสวัต ประมาณ 5 ชั่วโมง เมืองในที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขาหิมะและแม่น้ำสวัต หรือที่ปรากฏชื่อในประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาว่า เมืองอุทยาน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน ข้ามเทือกเขาฮินดูกูฏ ซึ่งมีความสูงถึง ๑๕๐๐ ฟุต เป็นเมืองที่เป็นเหมือนศูนย์รวมของพระพุทธศาสนาหลายนิกาย ได้แก่ เถรวาท มหายาน และวัชรยาน เป็นเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าไปสู่ในเอเชียกลาง ประเทศจีนและทิเบต พระภิกษุนักแสวงบุญเดินทางมาสู่ดินแดนพระพุทธศาสนาต่างก็มุ่งหวังที่จะได้มาเห็นเมืองนี้ ตามประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่เมืองนี้ แต่เชื่อกันทางอภินิหารว่า พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาทรมานพญานาคราชแล้วประทับรอยพระบาทไว้ ตามบันทึกของพระถังซำจั๋ง ท่านกล่าวว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความงดงามทั้งสถานที่ มีดอกไม้ สายน้ำ ภูเขา และผู้คน เต็มไปด้วยวัดวาอาราม มีบันทึกว่า มีวัดถึง ๑,๔๐๐ วัด มีพระภิกษุสงฆ์ถึง ๑๘,๐๐๐ รูป พระสงฆ์ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายวัชรยาน มีเมืองหลวงชื่อว่า มิงโคละ หรือมังคละโฆษะ เมืองอุทยานเป็นสถานที่เกิดของบุคคลสำคัญของวัชรยาน ผู้ที่นำพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่สู่ประเทศเป็นผลคือ ท่านคุรุปัทมสัมภวะ เส้นทางที่จะเข้าไปสู่เมืองอุทยาน พระเจ้าอุตตรเสนสร้างมหาสถูปไว้บรรจุพระบรมสารีกธาตุตามประวัติเล่าว่า เมื่อพระองค์ได้รับส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดียแล้วอัญเชิญมาด้วยช้างเผือก พอมาถึงที่นี่ช้างเผือกไม่ยอมไปต่อ ดังนั้นพระองค์จึงสร้างไว้ ณ ที่เมืองนี้ปัจจุบันตั้งอยู่หมู่บ้านชิงการ์ดาร์ ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าชิงการ์ดาร์สถูป
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม ………ดีที่สุด //รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่สี่ สวัต - ชีลาส
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์สวัต ที่รวบรวมพระพุทธรูปและโบราณวัตถุในแคว้นคันธาระเป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ปรับปรุงในปี 2009 เพราะว่าพิพิธภัณฑ์เก่าถูกแผ่นดินไหวในปี 2005 ทำให้วัตถุโบราณหลายชิ้นต้องสูญหายไป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองชีลาส นำท่านออกจาก หุบเขาสวัตผ่านเข้าสู่ เส้นทางคาราโคลัม Karakorum เส้นทาง เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและปากีสถานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคาราวานสายไหมในอดีตแต่ทางการจีนได้ลงทุนทำถนนไฮเวย์ที่อยู่สูงความสูงอยู่ในช่วงตั้งแต่ 1,000-4,000 กว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระยะทางเริ่มต้นจากเมืองคัชการ์(Kashkar) ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนสู่เมืองแอบบ็อตตาบัด ประเทศปากีสถาน เริ่มก่อสร้างในปี 1959 และเสร็จในปี 1979 ถือว่าเป็นเส้นทางที่เรียกว่าได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันดับ 8 เหตุเพราะว่าเส้นทางการก่อสร้างที่ยากลำบากบนถนนที่สูงและผ่านภูเขามากมายประกอบต้องเผชิญกับอากาศที่รุนแรงทำให้การสร้างถนนใช้เวลานานถึง20ปี ระหว่างเส้นทางท่านจะได้ชมธรรมชาติล้อมรอบหลากหลายด้วยหุบเขา-ทะเลสาบ-แม่น้ำ วิวสองข้างทางที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่คนท้องถิ่นอาศัยไม่มาก
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม..............ดีที่สุด . //รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่ห้า ชีลาส - สการ์ดู
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านขับรถไป เส้นทางคาลิมาบัด Karimabad ระหว่างทางแวะที่ Thalichi เพื่อชมภูเขาที่สวยงามสามลูก Nanga Parbat (8125M), Rakaposhi (7788M) และ Haramosh (7409M) ต่อมาไปยัง Skardu ตามแม่น้ำ Indus อันยิ่งใหญ่ผ่านช่องเขาแคบคาราโคลัมพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
เมื่อมาถึงที่ สการ์ดู นำท่านเยี่ยมชม พระพุทธหินแกะสลักได้รับความเสียหายเนื่องจากสภาพอากาศและขาดการดูแลที่เหมาะสมการแกะสลักพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์หนึ่งล้อมรอบด้วยพระโพธิสัตว์ขนาดเล็ก จากนั้นนำท่านชม ทะเลสาปซัทปารา ตั้งอยู่ใน หุบเขาสการ์ดู นับเป็นทะเลสาบน้ำจืดได้รับการขนานนามว่า เป็นทะเลสาปที่งดงามที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน
จากนั้นนำท่านเข้าที่พัก ................ดีที่สุด รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่หก สการ์ดู – คาลิมาบัด ฮุนซ่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
เช้าตรู่ที่โรงแรมและขับรถไปที่คาลิมาบัด ฮุนซ่าระหว่างทางแวะเยี่ยมชมทะเลสาปแชงกรีลา รีสอร์ท จากนั้นระหว่างทางเพื่อดูพื้นที่ทำเหมืองอัญมณี แวะจุดชมวิวยอดเขาฮาราโมชและยอดเขานังกาปาบัต Haramosh และ Nanga Parbat
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองคาลิมาบัด ฮุนซ่า นำท่านเข้าสู่โรงแรม.................ดีที่สุด
วันที่เจ็ด คาลิมาบัด – คุนจิราบ พาส – คาลิมาบัด (การขึ้นคุนจิราบพาสขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
เดินทางผ่านอุโมงค์ที่แข็งแกร่งตัดผ่านที่เป็นความร่วมมือระหว่างปากีสถานและจีนระหว่างทางผ่านชมทะเลสาปอัตตาบัด ที่เกิดจากดินสไลด์ และปิดตัวลงมาปิดเส้นทางน้ำตอนเหนือของหมู่บ้าน ทำให้เกิดเป็นทะเลสาปยาว 21กิโลเมตรและลึก 100เมตร ระหว่างทางชมยอดทิวเขาคล้ายเหมือนยอดเขาโบสถ์ เดินทางต่อสู่ ด่านคุนจิราบพาส ช่องทางการค้าที่สูงที่สุดในโลก ข้อตกลงระหว่างปากีสถานและจีน ด่านพรมแดนที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 4,730 เมตร บนเทือกเขาคาราโครัม นำท่านถ่ายรูปบนด่านพรมแดน พรมแดนตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคุนจิราบ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1986 เป็นต้นมา เป็นเขตอุทยานพืชพันธุ์ไม้ป่าและสัตว์สงวนที่หาดูได้ยาก...การขับรถขึ้นไปคุนจิราบพาสขึ้นอยู่กับสภาพอากาศบางครั้งสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นไปด้านบน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองคาลิมาบัด
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม.................ดีที่สุด .// รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่แปด คาลิมาบัด ฮุนซ่า - ป้อมบัลติท –กิลกิต (ประมาณ3ชั่วโมง)
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองกิลกิต เมืองกิลกิตเดิมชื่อว่าเมืองซาร์กิน-กิลิต ทางตอนใต้ของพาสสุ ระยะทางประมาณ 150กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเมืองกิลกิตเป็นเมืองโบราณในเส้นทางสายไหมและเส้นทางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาจากอินเดียไปสู่เอเชียถึงเมืองกิลกิต
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านแวะชมสะพานกิลกิต สะพานขึงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียยาว 182เมตรและกว้าง2เมตร ใช้สำหรับข้ามแม่น้ำกิลกิตที่เชี่ยวกราด นำวัสดุก่อสร้างมาอย่างยากลำบากขึงให้ความแข็งแรงยึดเหนี่ยวสะพานมาเป็นร้อยปี ปัจจุบันมีการทำนุบำรุงสะพานนี้ไว้เพื่อให้เข้าถึงจินตนาการเส้นทางสายไหมในสมัยก่อน ชม พระพุทธรูป Kargah เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผา เป็นพระพุทธรูปในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถูกค้นพบพร้อมกับเจดีย์ 3 องค์ซึ่งสูง 400 เมตรในช่วงปี ค.ศ.1938-1939 ห่างออกไปทางทิศตะวันตกของ Gilgit ประมาณ 10 กิโลเมตร เคยมีตำนานของคนในท้องถิ่นเกี่ยวกับพระพุทธรูปนี้ได้กล่าวถึง ชายผู้หนึ่งได้ปราบผีสาวที่เรียกกันว่า Yakhshini ซึ่งอาศัยอยู่ใน Kargah ลงได้
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม .............ดีที่สุด // รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่เก้า กิลกิต - เบชาม (ประมาณ8ชั่วโมง)
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางต่อสู่ทางตอนใต้สู่ เมืองเบชาม ระหว่างทางบนถนนคาราโคลัมแวะชมจุดจอดรถชมวิวเทือกเขาสลับวิวทะเลสาบมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางต่อสู่ เมืองเบชาม ที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนและมีการตลาดค้าขายมากมาย กรณีมีเวลานำท่าน ชมตลาดท้องถิ่นสินค้าพื้นเมือง
ค่ำ นำท่านเช็คอินท์ โรงแรม .............ดีที่สุด //รับประทานอาหารค่ำ ภายในโรงแรม
วันที่สิบ เบชาม -ตักศิลา - อิสลามาบัด (ประมาณ6ชั่วโมง)
06.30 รับประทานอาหารเช้า ภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
เดินทางสู่ตักศิลา เมืองหลวงของแคว้นคันธาระ เมืองตักสิลา ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำฮินดูและแม่น้ำ เชลัม เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีต เพราะตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมถึง ๓ เส้นทางที่มาบรรจบกัน จากศูนย์กลางอินเดีย จากเปอร์เซีย และจากจีน เป็นจุดพักของขบวนคาราวานค้าขายสินค้า จึงทำให้เป็นเมืองที่เป็นที่ต้องการของผู้เข้ามาครอบครองเพื่อที่จะควบคุมเส้นทางการค้าบริเวณแถบนี้ไว้เชื่อกันว่าเมืองนี้สร้างโดยพระเจ้าภารตะซึ่งเป็นน้องของพระรามซึ่งเป็นอวตารของพระวิษณุ และให้ชื่อเมืองนี้ว่าตักสะ ตามชื่อโอรสของตนตามประวัติในมหากาพย์มหาภารตะของอินเดีย ตามหลักฐานในพระพุทธศาสนา เมืองตักสิลานั้น เป็นเมืองแห่งการศึกษา และได้รับเรียกว่า เป็นมหาวิทยาลัยตักสิลา โดยมีอาจารย์ทิศาปาโมกข์เป็นผู้บริหาร ตักสิลามีความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปะวิทยา ศาสตร์ต่างๆ ปรากฏมาทั้งในชาดกคือก่อนพุทธกาลและในพุทธกาล ในครั้งพุทธกาล บุคคลที่มีชื่อเสียงต่างก็มาศึกษา ณ มหาวิทยาลัยตักสิลาทั้งสิ้น เมื่อครั้งพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ได้กรีฑาทัพเข้าสู่อินเดียก็ยึดเมืองตักสิลาแห่งนี้ไว้แต่ไม่ได้มีการสู้รบจึงทำให้เมืองไม่ได้รับความเสียหาย ในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองราชย์ก็ได้มาปกครองที่นี่ หลังจากที่ได้ปกครองปาฏลีบุตรและได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้วก็ได้สร้างมหาเจดีย์ใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่นี่ เรียกว่า “ธรรมราชิกสถูป” ตักสิลาจึงเป็นสถานที่ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาและประวัติศาสตร์โลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั่นเดินทางสู่เมืองโบราณวัดจัวเลียน ซากวัดในพระพุทธศาสนาที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในตักศิลาสร้างในสมัยราชวงศ์กุศาณะราวพุทธศตวรรษที่ 7มีกำแพงหินสูงใหญ่ล้อมรอบเจดีย์ประธานและห้องกุฏิเรียงรายในผังสี่เหลี่ยมจตุรัสและเจดีย์รายขนาดเล็ก ประดับประติมากรรมปูนปั้นพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์และสัตว์ในชาดก เช่นช้างเป็นต้น
ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองอิสลามาบัดซึ่งเป็นเมืองใหม่ถนนกว้างขวางและมีความทันสมัย
นำท่านชมมัสยิดไฟซอล (บางครั้งมีพิธีสวดจะไม่ได้เข้าด้านใน)ใจกลางเมืองอิสลามาบัด มัสยิดที่ใหญ่บรรจุคนได้ถึง 100,000คน ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกีโดยนำรูปแบบโมเดิร์นอารตมารวมตัวกันอย่างลงตัวแบบกระโจมสีขาวซึ่งเป็นของขวัญจากกษัตริย์ไฟซอลแห่งซาอุดิอารเบียสร้างและมอบให้แด่ชาวปากีสถานทุกท่าน
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ภายในโรงแรม //นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม.............หรือเที่ยบเท่าระดับ 5 ดาว
วันที่สิบเอ็ด อิสลามาบัด– เหมืองเกลือ - พิพิธภัณฑ์ ลาฮอร์ (ลาฮอร์)
นำท่านเดินทางสู่เมืองลาฮอร์ ระหว่างทางแวะชมเหมืองเกลือ ถือว่าเป็นเหมืองเกลือที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้และมีมานานกว่าหลายศตวรรษ มีการขุดเกลือออกมาเพื่อขายทำไฟฟ้าและอบอาหาร ปัจจุบันได้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว และบางขุดเกลือนำมาทำเป็นของที่ระลึก เช่นโคมไฟและสร้อยคอต่างๆ
ได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอิสลามาบัด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางต่อสู่เมืองลาฮอร์ อยู่ในรัฐปัญจาบ เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศปากีสถาน เคยเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิโมกุลและอังกฤษ จึงได้เห็นการก่อสร้างสถาปัตยกรรมหลายสิ่งที่ยังคงหลงเหลือ
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ภายในโรงแรม //นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม………หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
วันที่สิบสอง พิพิธภัณฑ์ ลาฮอร์ - ป้อมปราการ – ด้านนอกสุเหร่าบัดซาฮิ – พิธีมอบธง – สนามบินลาฮอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านชมป้อมปราการแห่งลาฮอร์ ซึ่งเป็นมรดกโลกตามคำประกาศของยูเนสโก้ถูกสร้างในศตวรรษที่ 11 หลังคริสตกาล เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติม ป้อมลาฮอร์เป็น พระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ในระหว่างปี 2099-2149 บนฐานของเชิงเทินโบราณได้รับการต่อเติมโดยจักรพรรดิโมกุลองค์ต่อๆ มา เช่น จะฮานกีร์และราชโอรสรวมไปถึงชาห์จะฮาน ผู้ก่อสร้างทัชมาฮาล
ชมพิพิธภัณฑ์เมืองลาฮอร์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถานด้านในมีสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมายได้ถูกแสดงไว้ ซึ่งมีห้องแสดงโชว์หลายห้อง จาก คันทราราฎษ์,ศาสนาพุทธ, เจน, โมกุล และ สมัยอาณานิคม ตั้งแต่อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุที่ขุดค้นได้จากเมืองโมเหนโจดาโรและเมืองฮารัปปามีพระพุทธรูปศิลปะคันธาระที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดในโลก โดยเฉพาะพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกข์กิริยาอันมีชื่อเสียง สามารถถ่ายทอดสรีระกล้ามเนื้อเส้นเอ็นได้สมจริงอย่างน่าอัศจรรย์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านชมด้านนอกสุเหร่าบัดซาฮิ หรือ สุเหร่าหลวง ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าของสุเหร่าเป็นลานกว้าง มีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคนลานกว้างของมัสยิดนี้จุคนได้ราวห้าหมื่นคน สุเหร่าบัดซาฮิถูกปล่อยให้รกร้างเป็นเวลานาน
จากนั่น ช่วงเย็นนำท่านเข้าสู่ด่านชายแดนระหว่างปากีสถานและอินเดียเพื่อดูพิธีการมอบธงระหว่างสองประเทศ และความเข้มแข็งของทหารปากีสถาน (กรณีที่รถติดมากการจราจรไม่เอื้ออำนวยจะเปลี่ยนช้อปปิ้งที่ตลาดท้องถิ่นในเมืองละฮอร์แทน)
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองละฮอร์ สนามบินใหม่เพื่อบินกลับกรุงเทพฯ
23.40 เครื่องบินออกจากสนามบินนานาชาติละฮอร์ โดยเที่ยวบิน TG346
วันที่สิบสาม สุวรรณภูมิ
06.10 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
**************
หมายเหตุสำคัญ
1. การเดินทางทัวร์ต่างประเทศและในประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติของโรคโควิด-19 เนื่องด้วยมาตรการเกี่ยวกับควบคุมโรคโควิด-19 ของแต่ละประเทศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจส่งผลให้ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิด รถไฟหยุดบริการ เรือสำราญหยุดบริการ หากเกิดกรณีดังกล่าว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ตามความเหมาะสม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
2. กรณีลูกค้าป่วยเป็นโควิค-19 ระหว่างทัวร์ ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาต่าง ๆ รวมทั้งค่าโรงแรมในการกักตัว ด้วยตัวท่านเอง / เนื่องจากทัวร์เป็นลักษณะเหมาบริการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าทัวร์ ทั้งนี้บริษัทฯ จะช่วยประสานงานต่าง ๆให้เรียบร้อย *ประกันการเดินทาง ของบริษัทฯ จัดทำให้ จะเป็นประกันอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น ไม่รวมประกันสุขภาพ และโรคประจำตัว ไม่รวมค่าโรงแรมในการกักตัว Hotel/Home isolation ไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตรวจ Fit to Fiy ATK RT-PCR และ PCR
โดยการเบิกประกันอุบัติเหตุจะต้องรักษาโดยโรงพยาบาล คลินิก มีใบเสร็จ และใบรับรองแพทย์ เท่านั้น ทั้งนี้การพิจารณาการเอาประกัน เป็นไปตามกรมธรรม์ บริษัทประกันภัย จะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้น บริษัทฯ ไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้
ลูกค้าได้อ่าน และรับทราบหมายเหตุสำคัญนี้ เพื่อความเข้าใจตรงกัน ก่อนการตัดสินใจซื้อทัวร์จากบริษัทฯ
1.ชำระมัดจำ 35,000 บาท
2.ส่วนที่เหลือชำระทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
การยกเลิก
1.ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วันทำงาน มิฉะนั้นทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำ
2.กรณียกเลิกก่อนการเดินทางภายใน 45 วันทำงาน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องหัก 50% ของราคาทัวร์
3.ถ้ายกเลิกก่อนเดินทาง 30 วัน บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ ในการคืนเงินทั้งหมด
1.ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด เส้นทาง กรุงเทพฯ– อิสลามาบัด // ละฮอร์ –กรุงเทพฯ โดยการบินไทย
2.ค่าที่พักโรงแรมระดับ 2-4ดาว พักห้องละ 2คืน รวม 11 คืน (บางเมืองบนเขาดีที่สุดคือ1-2*)
หมายเหตุ...โรงแรมไม่อนุญาตให้พัก 3 ท่านต่อ 1 ห้อง ไม่มีเตียงเสริม
3.ค่าอาหารตามที่กำหนดในโปรแกรม และน้ำดื่มสะอาดตลอดการเดินทาง
4.ค่ายานพาหนะ และค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
5.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและค่าทิปคนขับรถรวมตลอดทิป50USD/ท่าน ไม่รวมทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ
6.ค่าประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท การรักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
ต่อระยะเวลาการเดินทาง คุ้มครองไม่เกิน 500,000 บาทตามเงื่อนไขบริษัทประกัน
7.ค่าวีซ่าสำหรับท่องเที่ยวประเทศปากีสถาน 25ดอลล่าร์สหรัฐ
1.ค่าขนกระเป๋าเดินทางที่มีน้ำหนักเกิน 20 กิโลกรัม ตามที่แอร์ไลน์กำหนด
2.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น, ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารนอกรายการ, ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์
3.ค่ากล้องถ่ายรูปทุกๆ พิพิธภัณฑ์
4.ค่าเข้าชมนอกเหนือจากที่ระบุ
5.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
6. การยกกระเป๋าขึ้นลง รถบัส และ โรงแรมฯ บริษัทฯ บริการฟรี กรณีที่กระเป๋าท่านหู้หิ้วขาด แตก หรือ มีรอยขีดข่วน บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบทุกๆกรณี
7.การขอที่นั่งพิเศษกับทางแอร์ไลน์ เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง เป็นการจัดที่นั่งของสายการบิน บริษัท ไม่การันตีและไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตามที่ลูกค้าต้องการ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบินบริษัทฯไม่สามารถแทรกแซงได้
8.การเดินทางไปปากีสถาน ต้องมีพาสปอร์ตวัคซีน
9.ค่าเข้าห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำเอกชนกรณีบางสถานที่เรียกเก็บ รบกวนชำระตรงผู้ให้บริการ
10. ค่าทิปหัวหน้าทัว์ไทย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
1.บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางหรือการเปลี่ยนแปลงรายการหรือเปลี่ยนแปลงราคา ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองอันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยวได้ตามรายการ
2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาในกรณีที่สายการบินปรับเปลี่ยนราคาสายการบิน หรือกรณีที่คณะผู้เดินทางต่ำกว่ากำหนด
3.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าวีซ่า, ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว
4.เมื่อท่านได้ตกลงจองทัวร์กับบริษัทฯ แล้ว ถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น
หมายเหตุ...ขอให้ท่านพิจารณาก่อนการซื้อทัวร์
1.โรงแรมที่สการ์ดู ชีลาส ฮุนซ่าคาลิมาบัด กิลกิต เบชาม เป็นโรงแรมบนเขา ไม่มีแอร์
2.โรงแรมหลายแห่งจะเป็นเตียงใหญ่ ไม่ใช่เตียงแยก
3.การขึ้นที่คุนจิราบพาสขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการอนุญาตของตำรวจ กรณีมีหิมะตกเยอะบริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้ แต่จะพาไปเที่ยวที่อื่นแทน
4.พิพิธภัณฑ์ทุกๆ แห่งบางครั้งปิดแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้าป้ายจะเขียนปิดชั่วคราว คือไม่ใช่วันปิดทำการแต่สามารถเขียนปิดได้ กรณีนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยแต่ก็มีบ้างโดยเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์เปชวาร์ ทั้งนี้บริษัทฯไม่สามารถแทรกแซงได้ขอให้ท่านโปรดเข้าใจ
5.เมืองสวัต บางครั้งไม่อนุญาตให้เข้าเมืองทำให้ต้องปรับโปรแกรมทัวร์และอาจจะไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองสวัตอาจจะต้องถูกยกเลิกไปขอให้ท่านโปรดเข้าใจ
6.ประเทศปากีสถานสาธารณูปโภคยังไม่ได้ครบบางทีไฟฟ้าดับอาจมีบ้างเป็นช่วงเวลา
โดยเฉพาะเวลากลางคืนในโรงแรมทางตอนเหนือบนเขา ท่านอาจจะเตรียมไฟฉายไปด้วย
7.ผ่านด่านตรวจทุกแห่งกรุณาอย่ายกกล้องขึ้นถ่ายรูป (กรณีถ่ายรูปกับเจ้าหน้าที่หรือตำรวจต้องขออนุญาตก่อน)
8.อาหารกลางวัน บางวันอาจจะทานแบบปิกนิค เพื่อทำเวลาในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือสุเหร่า ที่มีเวลาปิดเปิด เนื่องจากอาจจะรถติดหรือสถานที่ปิดโดยสุดวิสัยจริงๆ หรือร้านอาหารปิด
คำชี้แจง
1.บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งเกี่ยวกับการบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..
เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์
ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์...เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
2.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์
ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
3.บริษัทฯ จัดการเดินทางเป็นคณะพร้อมกัน ดูแลลูกค้าอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน กรณีที่ท่านต้องการความเป็นส่วนตัวและการบริการที่เหนือผู้อื่นผู้ใด และไม่ต้องการมิตรภาพจากผู้ใดในคณะ บริษัทฯ ขอความกรุณาให้ท่านแจ้งก่อนการจองทัวร์
4.กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัวไม่ได้ หรือทานเนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ หรือมื้อไหนบริษัทฯไม่สามารถจัดหาให้ได้บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน
บริษัทฯขอขอบพระคุณที่ลูกค้าทุกท่านใช้บริการแพลนเนท อย่างต่อเนื่องและเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องแจ้งลูกค้าทุกท่านทราบก่อนการจองทัวร์
ขอแสดงความนับถือ….
บจก.แพลนเนท เวิลด์ไวด์ เซอร์วิส
*การขอที่นั่งพิเศษ เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง เป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้
กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน
หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่ซื้อที่นั่งขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
*กรณีลูกค้าซื้อตั๋วเอง และออกตั๋วบินภายในประเทศ ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯว่าสามารถออกตั๋วได้เท่านั้น กรณีลูกค้าออกตั๋วเองโดยไม่ได้รับการยืนยัน รวมทั้งการเปลี่ยนเวลาบิน ยกเลิกเที่ยวบินเกิดจากสายการบิน บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ *การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้ *กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัวไม่ได้ หรือทานเนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ หรือมื้อไหนบริษัทฯไม่สามารถจัดหาให้ได้บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน ยื่นวีซ่าแบบออนไลน์ *************
ทัวร์แนะนำ :
ทัวร์ปากีสถาน
ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ
ทัวร์ปากีสถานตอนใต้
1.พาสปอร์ตสแกนเท่านั้น
2.รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว2นิ้วเหมือนขนาดอเมริกา สแกนเท่านั้น
3.แสกน Vaccine Passport หรือ International Vaccination Certificate เพื่อแสดงการฉีดวัคซีน
4.สำเนาบัตรประชาชน (แนบออนไลน์)
5.กรอกชื่อ-นามสกุล บิดา มารดา และวัน/เดือน/ปีเกิด
6.Statement ธนาคาร1-3 เดือน มีแนบไปค่ะ
7.เบอร์มือถือติดต่อ อีเมล์ ของแต่ละท่าน
8.การงาน ระบุ ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน เบอร์โทร อีเมล์
9.สถานะ โสด / สมรส กรณี สมรส ระบุ ชื่อ นามสกุล คู่สมรส วัน/เดือน/ปีเกิด
10.กรุ๊ปเลือด
11.ระดับการศึกษา ระบุ
12.ในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน 3 ปีที่ผ่านมา เคยเดินทางไปที่ไหนบ้าง
ระบุ ประเทศ วันที่เดินทาง วัตถุประสงค์ในการเดินทาง และไปทั้งหมดกี่วัน
13.กรณี เคยมีวีซ่าปากีสถาน รบกวนถ่ายรูปหรือแสกน ระบุ วันที่เดินทาง วัตถุประสงค์ในการเดินทาง และไปทั้งหมดกี่วัน
ทัวร์แนะนำ