ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ
ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ

ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ

ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ โรงแรมทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ โรงแรม ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ โรงแรม ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ 8คืน
รวมตั๋วเครื่องบิน ตั๋วเครื่องบิน
มีหัวหน้าทัวร์ไทย หัวหน้าทัวร์ไทย
ประกันอุบัติเหตุการเดืนทาง ประกันอุบัติเหตุเดินทาง

Emirates
11วัน | 8คืน
แสดงราคา /วันเดินทาง

แกรนด์อิหร่าน 11 วัน 8 คืน ชีราซ อิสฟาฮาน อับบียาเนย์ คาชาน เตหะราน

ชีราซ อิสฟาฮาน อับบียาเนย์ คาชาน เตหะราน ใต้จรดเหนือ
โปรแกรม ไม่นั่งรถนาน โรงแรม 5 ดาว ท้องถิ่น
อาหาร ไก่ ปลา เนื้อ แกะ ปิ้ง ย่าง ทอด ผลไม้ตามฤดูกาล

โปรแกรมการเดินทาง ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ

วันแรก กรุงเทพฯ 

22.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถว T เคาน์เตอร์สายการบินอิมิเรสต์

วันที่สอง  กรุงเทพฯ - ดูไบ – ชีราซ

02.00 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินอิมิเรสต์ เที่ยวบินที่ EK377

06.00 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ ช้ากว่าประเทศไทย3.30ชม.

นำท่านต่อเที่ยวบิน EK2092 เครื่องบิน Fly Dubai

10.50 น.      ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองชีราซ จังหวัดฟาร์ ประเทศอิหร่าน

11.55 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองชีราช นำท่านผ่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า

นำท่านเดินทางสู่โรงแรมเพื่อเช็คอินท์ (เข้าห้องไม่ได้) 

บ่าย นำท่านเที่ยวชม  มัสยิดสีชมพู ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงามแปลกตามาก เพราะประดับไปด้วยกระเบื้องโทนสีแดง-ชมพู-เหลือง เป็นสีหลัก มีเพียงหนึ่งเดียวในอิหร่านไม่ว่าท่านจะมองมุมไหนของมัสยิดแห่งนี้ก็ดูสวยงาม อ่อนหวาน จากนั้นนำท่านเที่ยวชม คฤหาสน์ โบราณ ซึ่งมีอายุมากกว่า 125 ปี โดยก่อสร้างในสมัยราชวงศ์กอญัร ระหว่างปี 1879-1886 ที่ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมโบราณประจำยุคกอญัรเลยทีเดียว และท่านจะได้ชมรูปแบบของสวนแบบเปอร์เซียอันสวยงามที่และร่มรื่นในเวลาเดียวกันด้วย

เยี่ยมชม และคารวะ อนุสรณ์สถานของ ท่านฮาเฟช นักปรัชญาของเปอร์เซีย เมืองชีราซ ในยุคศตวรรษที่ 12 อนุสรณ์ของท่าน สร้างในปี 1773 โดยท่านการิมข่านแห่งราชวงศ์ชัน ภายในสวนสวยขนาดเล็กแห่งนี้คราดคร่ำไปด้วยชาวอิหร่าน จากต่างเมืองและชาวเมืองชีราซเองล้วนแต่ต้องหาโอกาสมาคาระเสมอ

17.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองชีราซ....................

วันที่สาม  ชีราซ-เปอร์ซีโปลิส – นัค-เช รอสตัม – ชีราช

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ

08.00 น. ออกเดินทางสู่พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองชีราซขึ้นไปประมาณ 80 กิโลเมตร  ซึ่งพระราชวังแห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อประมาณ 512 ปีก่อนคริสตกาลโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชแห่งราชวงศ์อะคาเมนิดของเปอร์เซีย และได้รับการปรับเปลี่ยน ต่อเติมในอีกร้อยปี และห้ารัชกาลต่อมาที่ปกครองเปอร์เซียแต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์  กระทั่งถูกเผาทำลายโดยกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราชเมื่อปี 330 ก่อนคริสตกาล  แต่ความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังแห่งนี้ก็ยังตรึงใจผู้คนทั่วโลก ที่จะต้องหาโอกาสมาเยือนพระราชวังซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งนี้ และเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมในยุคอะคาเมนิดที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวให้ได้แม้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

13.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านชมสุสาน 4 กษัตริย์หรือ นัคเชรอสตัม  ซึ่งอยู่ห่างจากเปอร์ซีโปลิสเพียง 5 นาทีโดยทางรถยนต์  ที่นี่ก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตัวพระราชวังเปอร์ซีโปลิส เพราะเป็นการจำลองพระราชวังอีกหนึ่งแห่งสำหรับชีวิตหลังความตายที่พระมหากษัตริย์องค์สำคัญๆ ที่เคยนั่งบัลลังก์แห่งเปอร์ซีโปลิส 4 พระองค์ได้เชิญเสด็จมาประทับที่นี่ไปจนชั่วนิรันดร์  เป็นสุสานที่เจาะเข้าไปในหน้าผาหินซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินถึงประมาณ 30 เมตร  เพื่อป้องกันการบุกรุกจากภายนอก 

สมควรแก่เวลาแล้วนำท่านกลับมายังตัวเมืองชีราซอีกครั้งหนึ่งโดยแวะถ่ายภาพที่ประตูโกหร่านซึ่งเป็นประตูเมืองทางทิศเหนือของชีราซ จากนั่นชม ตลาดวาคิล บาซาร์ ซึ่งเป็นบาร์ซาร์ ที่ใหญ่ใจกลางเมืองชีราซที่เก่าแก่และสวยงามมากโดยโครงสร้างของอาคารที่ก่อด้วยอิฐแดงแบบเรียงชิ้นเป็นโครงติดต่อกันหลายร้อยเมตร ในบาร์ซาร์แห่งนี้ประกอบไปด้วยสินค้ามากมายให้จับจ่ายใช้สอย ผู้คนคึกคักตลอดทั้งวัน ท่านสามารถหาของฝากจากตลาดแห่งนี้ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ ของกิน มากมาย

19.30 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองชีราซ....................

วันที่สี่ ชีราฟ – อิศฟาฮาน (ประมาณ 5-6 ชั่วโมง)

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม 

08.00 น. เดินทางสู่ เมืองอิสฟาฮาน เมืองหลวงของจังหวัดอิสฟาฮานและยังเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียรุ่งเรือง ในศตวรรษที่ 16-18 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรเปอร์เซียรุ่งเรื่อง สูงสุดอีกยุคหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้านการค้าขาย และเมืองอิสฟาฮาน  เองก็ได้กลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดถึง 500,000 คน  อีกทั้งยังได้รับการขนานนามไปทั่วโลกว่า ‘’Esfahan is half the World’’ อีกด้วย  

บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านชมเมืองอิสฟาฮาน  เมืองที่มั่งคั่งเป็นศูนย์กลางการค้าขาย หัตถกรรม อุตสาหกรรม ศูนย์กลางของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม วรรณกรรม และวิทยากร จนถึงขั้นเจริญสูงสุดในเกือบทุกด้านโดยเฉพาะการประดิษฐ์อักษรภาพอิสลามอันวิจิตรสวยงามแบบเปอร์เซีย

19.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองอิศฟาฮาน....................

วันที่ห้า อิศฟาฮาน

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม 

นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชจากโรงแรมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอยู่รายรอบจัตุรัสอิหม่าม บริเวณใจกลางเมืองอิศฟาฮานซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  นำท่านชม จัตุรัสอิหม่าม ซึ่งถือเป็นจุดใจกลางของเมืองอิศฟาฮาน  ซึ่งกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1(มหาราช) ทรงโปรดให้สถาปนิกประจำรัชกาลออกแบบและก่อสร้างตั้งแต่ปี 1602 พร้อมๆ กับสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่อยู่รายรอบ  จัตุรัสอิหม่ามหรือ Naq-e Jahan Square มีความยาวถึง 512 เมตร กว้าง 163 เมตร โดยแรกสร้างนั้นเป็นสนามหญ้าโล่งๆ เพื่อใช้ในการสวนสนามในพิธีการต่างๆ และเป็นสนามแข่งโปโลที่กษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ทรงโปรด  แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนโฉมไปมาก มีการจัดแต่งด้วยไม้ประดับ สระน้ำ และน้ำพุตรงกลาง และมีรถม้าสำหรับบริการนักท่องเที่ยวเพื่อนั่งชมรอบๆ จัตุรัสด้วยพระราชวังอะลีคาปู สร้างในยุคเดียวกันกับจัตุรัสอิหม่าม เป็นตึกครึ่งปูนครึ่งไม้สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของจัตุรัส ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในยุคนั้น  ที่สำคัญคือเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดของสถาปนิกแห่งยุคซาฟาวิดที่มีเทคนิควิธีในการป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างได้ผล  บนชั้น 4 ของพระราชวังเป็นระเบียงสำหรับชมทัศนียภาพของทุกสิ่งทุกอย่างบนจัตุรัสอิหม่าม  โดยในสมัยก่อนมีพลับพลาที่ประทับสำหรับพระมหากษัตริย์ทรงทอดพระเนตรการละเล่นต่างๆ ด้วย  ที่ชั้นบนสุดมีห้องสำหรับฟังดนตรีมโหรีขับกล่อมซึ่งก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่ประดับไว้ด้วยภูมิปัญญาช่างเปอร์เซียในการออกแบบผนังห้องให้ดูดซับเสียงดนตรีและขจัดเสียงสะท้อนออกไปอย่างได้ผล  สุนทรีในดนตรีที่ขับกล่อมจึงเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคนั้น 

มัสยิดชีคล๊อฟฟุลเลาะห์  ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสอิหม่าม ตรงข้ามกับพระราชวังอะลีคาปู  สร้างระหว่างปี ค.ศ.1602-1619 โดยพระบัญชาของกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกัน  ถึงแม้จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กแต่การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในต้องยกให้ว่าเป็นเลิศ เป็นมัสยิดประจำองค์พระมหากษัตริย์และคนในราชสำนักที่จะมาทำพิธีละหมาดที่นี่ได้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านชมมัสยิดอิหม่าม ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงทางด้านสถาปัตยกรรมแห่งยุคซาฟาวิดเลยทีเดียว สร้างโดยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ระหว่างปีค.ศ.1611-1629 นี่เป็นครั้งแรกที่การสร้างโดมประธานของมัสยิดสามารถทำเป็นสองชั้นคร่อมกันอย่างสนิทแนบเนียนและมีระยะห่างระหว่างชั้นทั้งสองของโดมเท่ากันเป็นแนวขนาน  และเป็นที่มาของการนำสวดที่สามารถทำให้เสียงกระจายออกไปได้ทุกส่วนทุกพื้นที่ของมัสยิดได้อย่างชัดเจน  นอกจากความมหัศจรรย์ทางด้านเสียงแล้ว ตัวมัสยิดเองก็ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในแผ่นดินเปอร์เซีย  สมบูรณ์แบบและสวยงามมากในด้านรูปทรงและองค์ประกอบของตัวอาคาร  ไม่ควรพลาดในการเข้าชมด้วยประการทั้งปวง

19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองอิศฟาฮาน....................

วันที่หก อิศฟาฮาน

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม 

ชมความสวยงามของวิหารแว้งค์ ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวคริสต์อาร์เมเนียน (ARMENIAN) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของเปอร์เซีย ภายในตัวโบสถ์มีภาพเขียนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ชมความเก่าแก่ของตำหนักรับรองเชเฮล โซทุน หรือวัง 40 เสา วังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1657 รอบพระราชวังมีสวนเขียวชอุ่ม ดอกไม้ชูช่อสวยงามในฤดูใบไม้ผลิโดยเฉพาะกุหลาบที่ห้อยเป็นพวงระย้าส่งกลิ่นหอมน่าชื่นใจ วังแห่งนี้สร้างในสมัยชาฮ์ อับบาสที่ 2 แต่ได้มีการออกแบบมาตั้งแต่สมัยชาฮ์อับบาสที่ 1 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และบรรดานางสนม ต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับอาคันตุกะหรือแขกเมือง ในพระราชวังแห่งนี้มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าซึ่งจะสะท้อนเงาของเสาพระราชวังถึง 40 ต้นซึ่งเป็นการเปรียบเปรยความใสของน้ำในสระที่สามารถสะท้อนเงาของเสาพระราชวังมากกว่าที่เห็นในความเป็นจริง ซึ่งเสาพระราชวังทั้งหมด มีเพียง 20 ต้นเท่านั้น   

ชมการแกะสลักลวดลายประตู หน้าต่าง ภาพฝาผนังปูนปั้น ชมภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ตำหนักเล่าเรื่องราวราชสำนักและประวัติศาสตร์การทำศึกสงคราม

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

สวน Hasht Behesht และพระราชวัง Hasht Behesht เป็นที่รักของชาวอิสฟาฮาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างในสวน Hasht Behesht Hasht Behesht Isfahan เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย ตั้งอยู่ในใจกลางอิสฟาฮาน แสดงถึงสถาปัตยกรรมอิหร่านและอิสลามของราชวงศ์ซาฟาวิด Hasht Behesht เป็นสถานที่ที่น่าหลงใหลซึ่งคุณควรชื่นชมความงามและเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของอิหร่าน Hasht Behehst อิหร่านถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมอิหร่าน เป็นอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งประกอบด้วยห้องโถงใหญ่ สระน้ำ เสา และห้องต่างๆ ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับชื่อของพระราชวังก็คือ ในภาษาเปอร์เซียหมายถึงสวรรค์ทั้งแปด

เย็น จากนั้นเดินทางสู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสายันเดห์รูดซึ่งไหลจากเทือกเขาซาโกรซแล้วผ่านเข้าสู่ตัวเมืองอิศฟาฮาน ชมสะพานสองแห่งที่สวยงามและมีชื่อเสียงซึ่งทอดข้ามสองฝั่งของแม่น้ำสายนี้  สะพานซิโอเซห์ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Allahverdi Khan Bridgeตามชื่อสถาปนิกผู้ออกแบบก่อสร้างในสมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 ใช้เวลาสร้างระหว่างปี 1599-1602  ราวสะพานทั้งสองข้างสวยงามด้วยฝีมือการก่ออิฐเป็นซุ้มจั่วแหลมเรียงกันถึง 33 ซุ้ม  สะพานแห่งที่สองที่ควรค่าแก่การแวะชมคือ สะพานคาจู ได้รับตำแหน่งสะพานที่สวยงามที่สุดในเมืองอิศฟาฮาน เป็นสะพานที่มีถึงสองระดับ โครงสร้างตอนล่างเป็นหิน ส่วนตอนบนเป็นอิฐ มีพลับพลาที่ประทับสำหรับการเสด็จประทับชั่วคราวของพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่กึ่งกลางบนชั้นที่สอง  สร้างเมื่อปีค.ศ.1650 สมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 2 มีความยาวถึง 110 เมตร

19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองอิศฟาฮาน....................

วันที่เจ็ด อิสฟาฮาน - คาซาน – เตหะราน 

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านอาบียาเนห์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ใช้อิฐ ดินดิบเป็นวัสดุในการสร้างบ้าน และยังคงสภาพเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 - 18 หมู่บ้านสร้างอยู่บนเนินเขา คาร์คาส ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,890 เมตร ในอดีตชาวเมืองนับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ (ZOROASTER) หรือลัทธิบูชาไฟซึ่งเป็นศาสนาโบราณของโลก ก่อนที่จะได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามาในภายหลัง

เที่ยง พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองคาชาน เมืองซึ่งตั้งอยู่เหนือความสูงของระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 เมตร เป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญของจังหวัดอีสฟาฮาน ในด้านการทอพรม ที่มีชื่อเสียงของชาวเปอร์เซีย มาแต่อดีตกาลมีชื่อเสียงไปทั่วโลกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และยังมีชื่อเสียงในการทอผ้าและทอผ้าไหมอีกด้วย นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองสำคัญในอดีต เนื่องจากเป็นเมืองผ่านเข้าสู่ทะเลทราย จึงเป็นเมืองที่มีบ้านของมหาเศรษฐีแห่งเมืองกลางทะเลทรายในอดีต ซึ่งมีอายุกว่า 170 ปี  นำท่านชมบ้านเศรษฐี  ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแล้ว 

เย็น หลังจากนั้นออกเดินทางสู่กรุงเตหะราน

19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองเตหะราน....................

วันที่แปด เตหะราน 

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอิหร่าน  มีชิ้นส่วนทั้งเล็กและใหญ่ที่นำมาจากพระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิสอันยิ่งใหญ่จำนวนมาก ไล่ละมาเรื่อยๆ จากเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้วในยุคราชวงศ์อะคาเมนิด ราชวงศ์ปาร์เธียน ซัสซาเนียน ซาฟาวิด และกอญัร  ล้วนแต่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่มีความสนใจทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีทั้งสิ้น

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น  

จากนั่น นำท่านชม พระราชวังโกเลสตาน  ซึ่งเคยเป็นพระราชวังหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียตอนปลายเมื่อ 200 ร้อยกว่าปีที่แล้วในสมัยราชวงศ์กอญัร (Qajar Dynasty, 1779-1921) เป็นยุคที่เปอร์เซียมีความรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งทางด้านการค้า การต่างประเทศและศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะกระเบื้องเคลือบและการตกแต่งภายในด้วยกระจกตัดเหลี่ยมคล้ายเพชรถือว่าโดดเด่นมากในยุคนี้  ซึ่งท่านก็จะได้เห็นห้องต่างๆ ในพระราชวังแห่งนี้ประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะทั้งสองแบบ

นำท่านช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นในตลาดบาซาร์ สินค้าท้องถิ่นและของฝากต่างๆ 

19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองเตหะราน....................

วันที่เก้า เตหะราน 

เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ

นำท่านชม อาคารซาดาบัด สร้างขึ้นโดยกษัตริย์กอจาร์และปาห์ลาวี ตั้งอยู่ในเชมิราน เกรตเตอร์เตหะราน ประเทศอิหร่าน ปัจจุบัน บ้านพักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีอิหร่านตั้งอยู่ติดกับอาคารดังกล่าว คอมเพล็กซ์แห่งนี้ประกอบด้วยป่าธรรมชาติ แกลเลอรี คฤหาสน์/พระราชวัง และพิพิธภัณฑ์ อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกและอาศัยอยู่โดยราชวงศ์กาจาร์ของกษัตริย์ในศตวรรษที่ 19 หลังจากการขยายอาณาเขตอย่างกว้างขวาง Reza Shah แห่งราชวงศ์ปาห์ลาวีก็อาศัยอยู่ที่นั่นในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 ชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ลูกชายของเขา ย้ายไปที่นั่นในช่วงทศวรรษ 1970 ในปีพ.ศ. 2521 ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์อยู่ในพระราชวังระหว่างเยือนอิหร่านเพื่อรับประกันว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนระบอบการปกครองนี้ หลังจากการปฏิวัติในปี 1979 อาคารแห่งนี้ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์สาธารณะ

จากนั้น นำท่านชมพระราชวังเนียวาราน ถูกสร้างขึ้นสำหรับราชวงศ์โมฮัมหมัด เรซา ชาห์ (1919-1980) พระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบในปี 1958 และแล้วเสร็จในปี 1967 พระราชวังแห่งนี้มีวัตถุประสงค์หลายประการสำหรับราชสำนักของจักรวรรดิ รวมทั้งเป็นที่ประทับของชาห์และจักรพรรดินี ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับให้ความบันเทิงแก่ประมุขแห่งรัฐจากต่างประเทศที่มาเยือน พระเจ้าชาห์และจักรพรรดินีทรงทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเมื่อพวกเขาออกจากอิหร่านในเดือนมกราคม ค.ศ.1970 ในวันส่งท้ายปีเก่าปี 1977 งานเลี้ยงต้อนรับและงานเลี้ยงของรัฐของประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ของสหรัฐฯ ถูกจัดขึ้นที่นี่

บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ หลังคาของเตหะราน เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาอัลบอรซ เพื่อชมวิว360องศาของเมืองเตหะราน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นทางตอนเหนือของเตหะรานจะทำให้คุณสดชื่นและให้คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เวลานำท่านกลับสู่เมืองเตหะราน

19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ5* ท้องถิ่นในเมืองเตหะราน....................

วันที่สิบ เตหะราน – กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯพร้อมเช็คเอ้าท์

นำท่านเดินทางสู่จัตุรัส Azadi มีพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร เป็นจัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิหร่าน รองจากจัตุรัส Naqsh-e Jahan ในอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ถือเป็นแบบจำลองที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกรายนี้ Hossein Amanat อธิบายการออกแบบของเขาว่า "... ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบภายในของโดมของมัสยิด Sheikh Lotfollah ในเมืองอิสฟาฮาน อย่างไรก็ตาม รูปทรงของโดมกลายเป็นวงรี” ในทำนองเดียวกัน สวนและน้ำพุยังแสดงให้เห็นสวนประวัติศาสตร์ของอิหร่านอีกด้วย ทางลาดของจัตุรัส Azadi ได้รับการออกแบบในลักษณะที่อำนวยความสะดวกในการชลประทาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสำคัญและความสูงของหอคอย Azadi ซึ่งตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอีกด้วย 

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

14.00 ได้เวลาเดินทางสู่สนามบินอิหม่ามโคมัยนี 

18.40 ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน EK980 สู่สนามบินนานาชาติดูไบ

21.20 ถึงสนามบินนานาชาติดูไบ จากนั้นนำท่านต่อเที่ยวบิน EK374

22.35 ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ

วันที่สิบเอ็ด สนามบินสุวรรณภูมิ

07.35 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ และประทับใจ

**************

 

อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 20/04/24 06:28:49 เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ทัวร์อิหร่าน เที่ยวแกรนด์ทัวร์ เจาะลึก 11 วัน 8 คืน ใต้จรดเหนือ

การจองทัวร์ /เงื่อนไขการจองทัวร์

งวดที่ 1: สำรองที่นั่งจ่าย 35,000 บาท/ท่านภายในการจอง
งวดที่ 2: ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

กรณียกเลิก
1.การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วัน ** ก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินมัดจำ งวดแรก
2.กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 45 วัน ** บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของค่าทัวร์
3.กรณียกเลิกน้อยกว่า30วันนับจากวันเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์

อัตรานี้รวม

1.ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับเป็นหมู่คณะ
2.ค่าโรงแรมที่พักตามรายการ
3.ค่าอาหารตามรายการ
4.ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการ
5.ค่าภาษีสนามบินตามรายการ
6.ค่ารถ-รับส่งและนำเที่ยวตามรายการ
7.ค่าธรรมเนียมวีซ่า
8.ค่ามัคคุเทศก์ชำนาญงานคอยอำนวยความสะดวก
9.ค่าประกันอุบัติเหตุในวงเงินคนละ 1,000,000.-บาท, ค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 500,000.-บาท

อัตรานี้ไม่รวม

1.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าอาหาร, ค่าเครื่องดื่มพิเศษ, ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์,
2.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ 5 USD ต่อวัน รวม 40 USD ตลอดทริป
3.ค่าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน 23 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องบินไม่เกิน 7กิโลกรัม

หมายเหตุ

- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและโปรแกรมทัวร์ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบจากเหตุอันเนื่องมาจากภัยจลาจล ประท้วง ความไม่สงบทางการเมือง อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ปัญหาการจราจร การล่าช้า หรือยกเลิกเที่ยวบิน แต่เราจะแก้ไขให้ดีที่สุด
- สถานทูตเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า 3,500 บาท โดยปริยาย (ไม่คืนทุกกรณี)
- สงวนสิทธิ์ไม่ขายแก่บุคคลที่สงสัยว่าจะลักลอบไปทำงานในต่างประเทศ

- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ปัญหาการเมือง ภัยสงคราม ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
- เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
- ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

ตั๋วเครื่องบิน
- ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอRefundตามระบบของสายการบินเท่านั้น(ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
- ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตหาดใหญ่ฯลฯโปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆยืนยันการเดินทางแน่นอนหากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
- เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง
- ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่(TWN/DBL) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง (TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
- โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
- ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ(TRADE FAIR) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
- กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้นกรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
- วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟันเจลสเปรย์และเหล้าเป็นต้นจะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
- หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
- สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบินคือ 20-30กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
- สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมและมีความกว้าง
(9.75นิ้ว) + ยาว( 21.5นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )
- ในบางรายการทัวร์ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศน้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบินบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
- กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไปไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
- ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
- กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
- กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

*การขอที่นั่งพิเศษบนเครื่องบิน เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้

**กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่เช็คราคากับทางสายการบินแต่ละวัน

*ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้

*สำหรับท่านที่จะออกตั๋วภายในประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินเอง เป็นดุลยพินิจของลูกค้า กรณีแอร์ไลน์ยกเลิกบิน หรือเปลี่ยนเวลาบิน บริษัทฯ ขออนุญาตไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เนื่องจากอยู่เหนือความควบคุมของบริษัทฯ และก่อนออกตั๋วเครื่องบินต้องได้รับคำยืนยันจากบริษัทว่ากรุ๊ปยืนยันเดินทางแล้วแน่นอนแล้ว บริษัทฯแนะนำ ควรออกตั๋วภายในประเทศให้ช้าที่สุด

*การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้

*กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัว เนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน

*กรณีลูกค้าที่เดินทางไปร่วมกับคณะในต่างประเทศหรือลูกค้าที่ไม่ได้เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ เช่นเดินทางไปก่อน หรือยู่ต่อ ไม่กลับพร้อมคณะ ขอให้ลูกค้าทำประกันการเดินทางของท่านเอง เนื่องจากบริษัทฯ ทำประกันการเดินทางแบบหมู่คณะที่เดินทางไปกลับพร้อมคณะเท่านั้นและประกันเฉพาะอุบัติเหตุเท่านั้นไม่รวมสุขภาพ,ไม่รวมโควิด,ไม่รวมโรคประจำตัว,ไม่รวมภัยสงครามหรือภัยจากก่อการร้าย

*ที่นั่งบนรถบัส บริษัทฯขอความร่วมมือให้ลูกค้านั่งด้านหน้ารถบัสให้ครบทุกเบาะก่อน เพื่อให้ทุกท่านได้นั่งเบาะปกติก่อน และขอสงวนสิทธิ์แถวหน้าสุดสำหรับไกด์ และหัวหน้าทัวร์ เพื่อเป็นพื้นที่ประสานงาน ดังนั้นขอเก้าอี้แถวด้านหน้า ขอเป็นที่นั่งสำหรับที่นั่ง 1 ท่าน/เบาะที่นั่ง เนื่องจากเส้นทางระยะไกล เบาะที่นั่งแถวหลังอาจเกิดการเมารถและไม่สบายกับผู้ที่นั่งหลังๆได้

*บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โรงแรมที่พัก ก่อนเดินทาง และหลังจบทริป ทุกกรณี เนื่องจากอยู่นอกเหนือจากโปรแกรมทัวร์ และเกิดจากเหตุผลที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น สายการบินล่าช้า สายการบินยกเลิก สายการบินเปลี่ยนเวลาบิน เหตุสุดวิสัยภัยทางธรรมชาติ เหตุสงคราม การจราจล เป็นต้น

เอกสารสำหรับยื่นวีซ่า

เอกสารสำหรับยื่นวีซ่าประเทศอิหร่าน
1.หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน (เล่มจริง) มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน นับจากวัน เดินทาง
2.รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว 2 ใบ
3.สำเนาบัตรประชาชน
4.สำเนาทะเบียนบ้าน
5.ระบุอาชีพ ตำแหน่งงาน

*************

ทัวร์แนะนำ : ทัวร์อิหร่าน ท่องเที่ยวอิหร่าน เที่ยวอิหร่าน ทัวร์ตะวันออกกลาง



^
TOP